
พร้อมหาพาร์ทเนอร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รับการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยว
ประเทศไทย, 27 กันยายน 2564 – คลับเมด ผู้นำด้านบริการแพ็กเกจที่พักแบบเหมาจ่าย พรีเมียมออลอินคลูซีฟ กางแผนขยายการลงทุน รองรับการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เตรียมเปิดรีสอร์ตใหม่อีกแห่งที่โกตากีนาบาลู บนเกาะบอร์เนียว พร้อมหาโอกาสขยายรีสอร์ตเพิ่มเติมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย
สัญญาณการเติบโตในทางบวก ช่วงเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว
ในช่วงเวลานี้ประเทศส่วนใหญ่ในเอเชีย ค่อนข้างระมัดระวังในการพิจารณาเปิดพรมแดนเพื่อการท่องเที่ยว เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาคอื่น จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่โรงแรมต่างๆจะใช้ช่วงเวลานี้ปรับปรุงการบริการ พร้อมยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อการท่องเที่ยวฟื้นตัว จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งนี้ ทำให้เห็นศักยภาพและความยืดหยุ่นด้านการจัดการของคลับเมด อันเห็นได้จากการกลับมาเปิดให้บริการรีสอร์ตอีกครั้ง ทั้งในประเทศจีน และ มัลดีฟส์ ตลอดจนถึง อเมริกาเหนือ แคริเบียน และ ยุโรป
โดยในปี 2564 การท่องเที่ยวภายในประเทศ ไปยังคลับเมดรีสอร์ตในประเทศจีน เพิ่มขึ้นกว่า 2.5 เท่า และยังเป็นปริมาณการเข้าพักที่มากกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาด ในขณะที่คลับเมดรีสอร์ตในมาเลเซีย ก็มีปริมาณการเข้าพักมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงที่มาเลเซียได้ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างรัฐ ก่อนการประกาศมาตรการ Movement Control Order (MCO) ครั้งล่าสุด นอกจากความสำเร็จด้านการจัดการรีสอร์ตที่มีอยู่ในปัจจุบันแล้ว คลับเมดยังมีรีสอร์ตที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และเตรียมเปิดรีสอร์ตเพิ่มเติมเร็วๆนี้
ฌ็อง-ชาร์ล ฟอร์ตูล ประธานกรรมการบริหารรีสอร์ตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คลับเมด กล่าวว่า “ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 สถานะของคลับเมดยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และพร้อมรับการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะเป็นไปอย่างรวดเร็วและแข็งแรง นอกจากนี้คลับเมดมีประสบการณ์อย่างยาวนานในอุตสาหกรรมกว่า 70 ปี เป็นผู้นำเปิดตลาดด้านการท่องเที่ยวไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ อาทิ คลับเมด เซเชลส์ และ คลับเมด ลี่เจียง ซึ่งถือเป็นโครงการพัฒนาล่าสุด ที่คลับเมดได้ลงทุนก่อสร้างขึ้นมาใหม่ รวมถึงโครงการ คลับเมด บอร์เนียว โกตากีนาบาลู ที่คาดว่าจะพร้อมเปิดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จากผลสำเร็จของโครงการดังกล่าว รวมถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของ ประเทศไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการท่องเที่ยวฟื้นตัว เราจึงกำลังมองหานักลงทุน หรือพาร์ทเนอร์ ที่สนใจพัฒนารีสอร์ตในตลาดที่มีศักยภาพเหล่านี้”